“All or Nothing” เทรนด์การเดท การหาคู่ ปี 2024 ที่เขย่า Mindset คนทุก Gen จิตวิทยาเดทแรก การออกเดท นัดเดท การเดทของคนโสดหาคู่ยุคปัจจุบัน

SHARE

“All or Nothing” เทรนด์การเดท การหาคู่ ปี 2024 ที่เขย่า Mindset คนทุก Gen จิตวิทยาเดทแรก การออกเดท นัดเดท การเดทของคนโสดหาคู่ยุคปัจจุบัน

All or Nothing” เทรนด์การเดท การหาคู่ ปี 2024

ที่เขย่า Mindset คนทุก Gen

 

สำหรับเทรนด์การเดท การหาคู่ แบบ All or Nothing กำลังเป็นการเดทที่ถูกพูดถึงมากในช่วงนี้ โดยบางส่วนก็มองว่าเป็นเทรนด์การเดทที่จะเข้ามาเซ็ตมาตรฐานใหม่ในการเดทของปี 2024 แต่บางส่วนก็ค้านด้วยการมองว่าเทรนด์เดทนี้จะสร้างความเป็นพิษในความสัมพันธ์เสียมากกว่า ! เรามาดูกันค่ะว่าเพราะอะไร การเดทแบบนี้ถึงได้ใจคนรุ่นใหม่ยุคปัจจุบัน ?  และการเดทแบบนี้เกิดมาจากสาเหตุอะไร ?  

 

วันนี้ แม่สื่อ บริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching จะพาทุกท่านไปร่วมค้นหาคำตอบที่อยู่ภายใต้เทรนด์การเดท “All or Nothing” นี้ค่ะ ซึ่งแม่สื่อต้องขอกระซิบไว้ก่อนค่ะว่า ถ้าหากเทรนด์นี้เกิด mass มาก ๆ ขึ้นมา จะเป็นการยกระดับและเขย่า mindset การเดทของคนทุก ๆ generation ให้เปลี่ยนไปอย่างแน่นอนค่ะ

 

  • เทรนด์การเดท All or Nothing คืออะไร

 

สำหรับการเดทแบบ All or Nothing แม่สื่อ บริษัทจัดหาคู่เดท ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching ขอให้คำนิยามว่าเป็นการเดทแบบ “ถ้าไม่ได้ทั้งหมด ก็ไม่เอาเลย” ซึ่งเป็นการเดทที่ต่างฝ่ายต่างจะไม่อ้อนวอน ร้องขอใครให้มารัก มาคบกัน ถ้าต้องร้องขอ อ้อนวอน ไม่เอาค่ะ บางคนก็ให้คำนิยามของการเดทแบบนี้ว่าเป็นการเดทแบบ Black & White ซึ่งเป็นการแบ่งสีการเดทออกเป็นแค่ขาวและดำเท่านั้น ไม่มีพื้นที่สีเทา  ถ้าไม่ได้ตามที่ต้องการทั้งหมด ก็ไม่เอาเสียดีกว่า 

 

  • การเดทแบบ All or Nothing มีที่มาจากอะไร

 

สำหรับการเดทสุดขั้ว All or Nothing แบบนี้มีที่มาจากชาว Gen Z ในยุคนี้ ที่มอบมุมมองใหม่ ๆ ให้การออกเดทอย่างหลากหลาย แน่นอนว่าการเดทแบบ “ไม่ได้ทั้งหมด ก็ไม่เอา” นี้ก็เช่นกัน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และการออกเดทอย่าง Paul C. Brunson ได้ให้ความเห็นว่า กลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 18-25 ปี ในปัจจุบัน คิดว่าพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มีพลังในการกำหนดเทรนด์การเดทได้ ทำให้แนวคิดนี้เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ออกมาสร้างสีสันให้กับความสัมพันธ์  

 

โดยทางแม่สื่อ บริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching ได้วิเคราะห์ว่า เพราะสภาพสังคมปัจจุบันที่เปิดกว้าง มีการรับรู้เรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม  คนเรามีความตระหนักรู้ในเรื่องของ Self-Respect กันมากขึ้น ทำให้การรักตัวเอง และรู้คุณค่าในตัวเอง กลายมาเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้ standard ในการหาคู่เพิ่มมากขึ้น คนในยุคนี้จะไม่ยอมให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบในการเริ่มความสัมพันธ์ เพราะกลุ่มนี้รู้จักคุณค่าของตัวเองมากพอ ว่าตัวพวกเขาเหมาะจะได้พบเจอกับคนที่ดี มีมาตรฐานในการหาคู่ที่ชัดเจน จึงทำให้การเดทแบบ All or Nothing นี้เกิดขึ้น เพราะถ้าไม่ได้อย่างที่ต้องการ ก็ขออยู่คนเดียวแบบสบายใจ ไม่เดือดร้อนใจยังจะดีซะกว่านั่นเองค่ะ ซึ่งในปัจจุบันนี้ เราก็จะพบว่าแนวคิดแบบนี้เห็นได้เยอะมากขึ้นนะคะ หลายคนบอกว่ายอมอยู่คนเดียว ดีกว่ามีคู่ แล้วไม่ตรงตามความต้องการ หรือมีคู่ที่ต่ำกว่า Standard ของตัวเอง ซึ่งก็จัดเป็นรูปแบบหนึ่งของการเดทแบบ All or Nothing ด้วยนั่นเองค่ะ

 

“All or Nothing” เทรนด์การเดท การหาคู่ ปี 2024 ที่เขย่า Mindset คนทุก Gen จิตวิทยาเดทแรก การออกเดท นัดเดท การเดทของคนโสดหาคู่ยุคปัจจุบัน
“All or Nothing” เทรนด์การเดท การหาคู่ ปี 2024 ที่เขย่า Mindset คนทุก Gen จิตวิทยาเดทแรก การออกเดท นัดเดท การเดทของคนโสดหาคู่ยุคปัจจุบัน

 

  • มาตรฐานคู่เดทที่คนในยุคนี้ให้ความสำคัญ มีอะไรบ้าง ?  

 

แม่สื่อมีข้อมูลที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ ที่ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของคนที่ทำการเดทแบบ All or Nothing นี้ไว้ว่า “คู่เดทในอุดมคติ” จะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติอะไรบ้าง ? ที่ถ้าไม่ได้ตามนี้ก็จะไม่เอาเลย ทำให้พบว่าคู่เดทที่สาว ๆ หนุ่ม ๆ กลุ่มตัวอย่างเหล่านี้ใฝ่ฝัน มีคุณสมบัติดังนี้ค่ะ

 

  1. มีความซื่อสัตย์ จริงใจ ซื่อสัตย์ต่อกัน 79%
  2. มีความเคารพซึ่งกันและกันในทุก ๆ ด้าน 78%
  3. มีความใจกว้าง เปิดใจรับฟัง ทัศนคติไม่คับแคบ 61%
  4. มีข้อดีอย่างอื่น นอกเหนือจากรูปลักษณ์ หน้าตา 56% 

 

และนอกจากนี้ คนยุคใหม่ยังให้ความสำคัญกับคู่เดทที่ดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ โดยกว่า 75% เห็นตรงกันว่าคู่เดทที่ดึงดูด และน่าสานสัมพันธ์ต่อ คือคนที่รู้จักดูแลตัวเอง รวมถึงเข้าใจ ดูแลสุขภาพจิตตัวเองได้เป็นอย่างดีด้วยนั่นเอง 

 

ซึ่งจริง ๆ จากผลสำรวจเหล่านี้ แม่สื่อมองว่า ค่อนข้างจะเป็นเรื่องพื้นฐานมาก ๆ ค่ะ สำหรับคนที่อยากออกเดทกับคนดี ๆ สร้างความสัมพันธ์ที่เฮลตี้ การตั้งคุณสมบัติแบบนี้ไว้ เป็นการสกรีนคนที่เข้ามาด่านแรกก็ไม่ได้โหดจนเกินไปนัก ทั้งเป็นการเซฟตัวเองและเซฟความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย 

 

เพราะปกติ เวลามีลูกค้าที่เข้ามาปรึกษาใช้บริการจัดหาคู่กับบริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching  คนส่วนมากก็จะมีการระบุคุณสมบัติของคู่เดทที่อยากจะเจอเบื้องต้น เพื่อเป็นการสกรีน และตีวงให้เจอคนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด การเดทแบบ All or Nothing ก็ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกันเลยค่ะ

 

มีเพียงความแตกต่างที่ชัดเจน ก็คือการออกเดทผ่านบริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching จะมีแม่สื่อมืออาชีพเป็นผู้สกรีน คัดกรองคู่เดทที่ตรงคุณสมบัติตามต้องการให้ แต่หากเป็นการเดทด้วยตัวเอง เหมือนปกติทั่วๆ ไป คุณก็ต้องใช้เทคนิคในการดูคนด้วยตัวเองที่ต้องอาศัยเซนส์ และประสบการณ์ในการเดทสักหน่อยค่ะ 

 

  • การเดทแบบ All or Nothing มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

 

แน่นอนว่าเทรนด์การเดทที่ค่อนข้างสุดโต่งแบบนี้ก็ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่เราจะต้องเรียนรู้ เพราะว่าในการเดทตามเทรนด์แบบนี้ ก็จะมีทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ต้องควรระวัง ซึ่งเราสามารถนำมันมาปรับใช้กับการหาคู่ของเราได้โดยไม่ต้องตึงมากจนเกินไปด้วยค่ะ

 

ข้อดีของการเดทแบบ All or Nothing 

 

  • ได้เจอกับคนที่ตรงสเปค ตามความต้องการอย่างแท้จริง
  • ได้คัดเลือก สกรีนบุคลิก นิสัยของคู่เดทพื้นฐานได้ตรงความต้องการ
  • สร้าง Self-esteem ที่ดีให้กับตัวเอง มีความมั่นใจมากขึ้น

 

ข้อเสียของการเดทแบบ All or Nothing 

 

  • เพิ่มความกดดันในการออกเดท เพราะไม่มีพื้นที่ตรงกลางในการเดท มีแค่ใช่กับไม่ใช่เท่านั้น
  • อาจเจอคนที่เสแสร้งทำให้ตรงใจ แต่นิสัยจริง ๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่แสดงออกในช่วงแรก
  • เพิ่มเงื่อนไขให้กับการหาคู่มากขึ้น ทำให้โอกาสในการเจอคู่เดทที่ใช้น้อยลง

 

  • แม่สื่อ บริษัทจัดหาคู่ Bangkok Matching วิเคราะห์เทรนด์การเดท All or Nothing จะช่วยยกระดับการเดทในเรื่องใดบ้าง

 

สำหรับเทรนด์การเดทนี้ แม้จะเป็นเทรนด์การเดทที่ดูสุดโต่ง สุดทาง ที่ถ้าหากนำมาใช้จริงก็อาจจะเป็นการเขย่า mindset ใหม่ให้กับคนในสังคมที่มองว่าคนเราต้องปรับให้เข้ากัน ระหว่างคบกันก็สามารถปรับจูนให้เข้ากันได้ แต่ทางแม่สื่อ บริษัทจัดหาคู่ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching มองว่าหากเทรนด์นี้เข้ามาจริง ๆ ก็อาจจะเป็นการยกระดับการเดทในเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

 

  1. เปลี่ยนมุมมอง/ทัศนคติในการหาคู่

 

เพราะการเข้ามาของเทรนด์การเดทนี้ เป็นการเปลี่ยนความเชื่อ มุมมอง ทัศนคติของคนในสังคมไทยส่วนใหญ่อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันนี้การเดทของเรามักจะนิยมเป็นการค้นหาคนที่ตรงใจในเรื่องของรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ และนิสัยบางส่วนก่อน หลังจากนั้นเมื่อทำความรู้จักกันมากขึ้น ก็จะมีการปรับจูนให้เข้ากันได้ดีขึ้น จนกระทั่งกลายเป็นคู่ที่เข้ากันได้ดี จากนั้นค่อยพัฒนาไปสู่การแต่งงานสร้างครอบครัว แต่ถ้าหากเทรนด์นี้เข้ามา การลำดับความสำคัญก็จะเปลี่ยนไป โดยทั้งสองฝ่ายจะมีธงในใจที่ปักไว้ว่าคู่เดทจะต้องมีนิสัย 1,2,3… ซึ่งถ้าหากระหว่างการเดท พบว่ามีข้อไหนไม่ตรง ก็จะตัดคน ๆ นั้นทิ้งไปทันที เพราะไม่ตรงสเปค

 

  1. เพิ่มความยากในการหาคู่

 

จากข้อข้างต้น จึงเชื่อมโยงมายังข้อนี้ค่ะ เพราะทำให้ความยากในการหาคู่เพิ่มมากขึ้น เพราะว่าการที่เราตั้งสเปคสูงและจำกัดว่า เราจะต้องได้คนที่ใช่และตรงตามสเปคเท่านั้น ก็จะทำให้การเดทมีเงื่อนไขเพิ่มมากขึ้น การที่เราจะได้พบคนคนนั้นที่มีคุณสมบัติครบตามต้องการทุกข้อ ก็น้อยลงไปด้วย หรือบางครั้ง หรือสำหรับบางคน ก็อาจจะไม่เจอเลยก็ได้ค่ะ ถ้าหากว่าเราตั้งคุณสมบัติในใจเอาไว้ละเอียด และเฉพาะเจาะจงมากเกินไป

  1. เพิ่มโอกาสในการเจอคน Toxic มากขึ้น

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะกับข้อนี้ เพราะการที่เราตั้งคุณสมบัติคู่เดทที่ต้องการเอาไว้สูง เงื่อนไขเยอะ คุณสมบัติเพียบ ก็อาจไปเพิ่มโอกาสในการเจอคู่เดทที่ไม่จริงใจมากขึ้นด้วย

 

เป็นเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่ต่างตั้งสเปคเพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดี คนที่สมบูรณ์แบบ คนในฝัน เช่น ต้องเข้าใจเรา รักเรา รักครอบครัวเรา ใจดี ใจกว้าง ให้พื้นที่ส่วนตัวกับเรา แต่ก็ต้องคอยตามเรา หรือต้องคอยเอาใจในเวลาที่เรารู้สึกไม่ดี มาหาบ่อย ๆ มารับมาส่งหลังเลิกงานเสมอ ซึ่งในตอนแรก คุณอาจจะได้เจอกับคนที่ตรงตามมาตรฐานทุกข้อ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขากลับเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ซึ่งจริง ๆ แล้ว เขาไม่ได้เปลี่ยนค่ะ แต่ในช่วงแรกที่เขาเข้าหาคุณ มันเป็นการแสดง เสแสร้ง เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานที่คุณตั้งขึ้นเท่านั้น พอผ่านช่วงเวลาโปรโมชั่นมาแล้วก็กลายร่างเป็นตัวตนจริง ๆ ที่ทำให้คุณต้องเสียใจและเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์อยู่ดี รวมถึงยังกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Toxic Relationship ได้อีกด้วย

 

เทรนด์การเดทแบบ All or Nothing แม้ว่าจะมีความสุดโต่งที่เป็นเอกลักษณ์ในการเข้ามาเขย่า mindset การออกเดทของคนโสด แต่ถ้าเอาเข้าจริงแล้ว แม่สื่อมองว่า หากดึงแค่จุดเด่นของเทรนด์และนำเอามาปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง ปรับให้มีความเป็นกลาง ให้การสร้างความสัมพันธ์มีความสมดุลไม่ตึงเกินไปและไม่หย่อนจนเกินไป ก็ย่อมส่งผลดีกว่าการตัดสินคนแบบขาวล้วนหรือดำล้วน เพราะถ้ามองในมุมของเราเอง เราก็คงไม่อยากจะถูกตัดสินแบบไม่ดำ ก็ต้องขาวเท่านั้น จากคนอื่นแบบนี้เช่นกันแน่ ๆ 

 

แต่ถ้าคุณอยากสร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจ ง่าย และไม่ซับซ้อน Bangkok Matching บริษัทจัดหาคู่เดทระดับไฮเอนด์ มีแม่สื่อมืออาชีพ ที่จะช่วยแมชชิ่งคู่เดทที่ใช่ ตรงใจ ปลอดภัย มั่นใจได้ว่า ไม่ถูกหลอกลวงให้กับคุณ เพราะจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีก็จะเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่เข้มแข็งค่ะ  

 

[seed_social]

Top