ผลดำเนินงานของแอปพลิเคชันหาคู่ 2024
แนวโน้มที่สำคัญ ในตลาดแอพหาคู่ ในปี 2025
สิ้นปี 2024 แบบนี้ บริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ แบงคอก แมทชิ่ง จึงได้ทำการวิเคราะห์ผลดำเนินงานของแอปพลิเคชันหาคู่ในตลาดโลก และได้พบแนวโน้มที่สำคัญในตลาดแอพหาคู่จาก research และ report ณ สิ้นปี 2024 ดังนี้:
รายงานล่าสุดระบุว่า ผู้ใช้งานแอปหาคู่มีความลังเลมากขึ้นที่จะอัปเกรดเป็นสมาชิกพรีเมียม สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนี้มีหลายประการ ได้แก่:
1 คุณค่าที่ได้รับเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่าย: ผู้ใช้งานแอพหาคู่จำนวนมากแสดงความไม่พึงพอใจต่อฟีเจอร์พรีเมียม โดยมองว่าผลประโยชน์ที่ได้รับไม่คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย แอปหาคู่บางแห่ง อย่าง Tinder Gold และ Bumble Premium ถูกวิจารณ์ว่า มีข้อได้เปรียบที่แตกต่างจากเวอร์ชันฟรีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่แอปหาคู่เฉพาะกลุ่ม เช่น Feeld พยายามชดเชยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วยการนำเสนอฟีเจอร์พิเศษที่ตรงตามความต้องการเฉพาะของผู้ใช้งาน
2 ตัวเลือกที่ล้นหลามและปัญหาการมีส่วนร่วม: แอปหาคู่บางประเภท เช่น Raya ซึ่งเคยได้รับความนิยมในฐานะแอปหาคู่พิเศษสำหรับการพบปะคนพิเศษ กลับถูกมองว่ามีผู้ใช้งานมากเกินไป ส่งผลให้อัตราการจับคู่และการมีส่วนร่วมลดลง แม้แต่ผู้ใช้งานที่เป็นบุคคลโปรไฟล์ดียังพบว่าพวกเขาหาความสัมพันธ์ที่จริงจังได้ยากขึ้น แม้จะยอมจ่ายเงินเพื่อเป็นสมาชิกพรีเมียมแล้วก็ตาม
3 พฤติกรรมผู้ใช้งานและความอิ่มตัวในตลาด: มีจำนวนผู้ใช้งานที่นิยมใช้แต่เวอร์ชันฟรีที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นบนแอพหาคู่ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์ก็ตาม แต่คนใช้งานส่วนใหญ่คิดว่าก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานแบบไม่ซีเรียสของพวกเขา ซึ่งสอดคล้องกับความท้าทายที่บอกว่าแอปหาคู่ต้องเผชิญกับความท้าทายในการจะเปลี่ยนผู้ใช้งานฟรีให้เป็นสมาชิกที่จ่ายเงินให้ได้มากกว่านี้
4 วิธีการหาคู่อื่นๆ : ผู้ใช้งานบนแอพหาคู่จำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ หันมาใช้วิธีการพบปะในกิจกรรมแบบพบปะตัวต่อตัว เช่น งานอีเวนต์ การนัดเดตแบบ speed dating หรือกิจกรรมทางสังคมอื่น ๆ เพื่อพบปะเจอคนใหม่ๆ เนื่องจากวิธีเหล่านี้ถูกมองว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าแพลตฟอร์มแอพหาคู่ออนไลน์ในการจะสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริง
แนวโน้มนี้สะท้อนถึงความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้งานแอปพลิเคชันหาคู่ ที่ต้องการความโปร่งใสและคุณค่าที่ชัดเจนจากฟีเจอร์พรีเมียมของแอพหาคู่ ประจำปี 2024
รายงานยังชี้ให้เห็นว่า คนรุ่น Gen Z เริ่มหลีกเลี่ยงการใช้งานแอปพลิเคชันหาคู่มากขึ้น เนื่องจากความไม่พอใจต่อการสื่อสารที่ฉาบฉวย ได้แต่ถามชื่อ แต่ไม่ได้มีการคุยลึกซึ้ง ปัญหา “ghosting” และความเหนื่อยล้าจากการใช้แอป (“app fatigue”) คนรุ่นนี้ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่แท้จริง ที่มีความหมาย ซึ่งพวกเขารู้สึกว่าแอปพลิเคชันหาคู่มักไม่สามารถตอบโจทย์นี้ได้ ส่งผลให้ Gen Z หันไปหาวิธีการพบปะผู้คนในรูปแบบอื่น เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม หรือฟีเจอร์ที่เน้นการพบปะตัวต่อตัวแทน
ปัจจัยที่มีผลต่อแนวโน้มนี้ ได้แก่
1 ความต้องการความแท้จริง: Gen Z ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่แท้จริงและมีความหมาย มากกว่าการสื่อสารแบบผิวเผินที่พบได้ในแอปพลิเคชันหาคู่ที่เน้นการปัดหน้าจอโดยดูจากรูปเท่านั้น
2 การเปลี่ยนแปลงในความชอบ life style: แทนที่จะพบปะกันในบาร์หรือปาร์ตี้ คนรุ่นนี้เริ่มสนใจการนัดพบกันที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความเป็นอยู่ เช่น การดื่มกาแฟหรือการพบปะในกิจกรรม ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมใดๆ ซึ่งสอดคล้องกับความสนใจในเรื่องสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตที่ดี โดยไม่เกี่ยวข้องกับการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการปาร์ตี้เมามาย
3 การให้ความสำคัญกับความเข้ากันได้: Gen Z มีความพิถีพิถันในการเลือกคู่ โดยให้ความสำคัญกับความสอดคล้องกันในเรื่องสิ่งแวดล้อม การเมือง และค่านิยมทางสังคม ซึ่งแอปพลิเคชันหาคู่มักไม่มีเครื่องมือที่ช่วยคัดกรองในด้านเหล่านี้
4 การพิจารณาตัวเลือกแบบ Hybrid: Gen Z ชอบการพบปะคนโสดจริงๆ โดยผ่านการทำกิจกรรม และการใช้ชีวิต แต่ก็ยังเปิดรับเทคโนโลยีที่สามารถช่วยกรองคนในสเปคที่ต้องการให้ได้