เรื่องจากกระทู้พันทิป ตอนนี้เราเครียดเกือบทุกวันด้วยพฤติกรรมของสามี

SHARE

Story from Pantip: I can't take behavior of my husband anymore

แม่สื่อเอาเรื่องราวชีวิตคู่มาให้ฟังกันอีกเรื่องค่ะ 

อีกละคะ เลือกคู่ ทัศนคติๆๆๆ เท่านั้นนะคะ 

 

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ

ยาวหน่อยนะค่ะ  รบกวนถามความคิดเห็นเพื่อนๆหน่อยนะค่ะว่าควรเลือกอยู่หรือเลิก ตอนนี้เราเครียดเกือบทุกวันด้วยพฤติกรรมของสามี ตั้งแต่แต่งงานตอนนี้ก็ราวๆ 2 ปี ตอนนี้เรามีลูก 1 คน เกือบขวบแล้ว 

ย้อนกลับไป 3 ปีที่แล้ว เราย้ายงานมาเจอเค้าที่ที่ทำงานใหม่ เริ่มคบกันได้สักเดือนนึง เค้าพาเราไปบ้านเค้า พื้นเพทางบ้านเค้าฐานะปานกลางถึงยากจน  (ไม่ได้ดูถูกนะค่ะ แต่อยากให้ข้อมูลให้ครบตามเนื้อผ้า) แต่มาดีขึ้นนิดนึงตั้งแต่สามีเราทำงาน 

สามีเราจบปริญญาตรีการงานโอเคระดับหนึ่ง พ่อเค้าเป็นพนักงานขับรถ แม่อยู่บ้านเฉยๆ สามีเราส่งเสียค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน บ้านเค้าและตัวเค้าเชื่อและงมงายในสิ่งเล้นลับมาก เลี้ยงกุมาร บูชาเทพ มีการเอาเสามาแต่งตัวซึ่งเค้าเรียกเสานี้ว่าแม่นางไม้ คือเรียกว่าสุดโต่งอยู่ในเรื่องความเชื่อ ซึ่งแม่เค้าก็จะเหมือนมีกุมารมาเข้าตลอด นั่งๆอยู่ก็เปลี่ยนเสียงเป็นเสียงเล็กๆ ส่วนตัวเราไม่เชื่อ เราค่อนข้างมั้นใจว่ามันคือการอุปทาน หรืออาการทางจิตอ่อนๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ถือว่าไม่เชื่อ แต่ ก็จะไม่หลบหลู่ การที่แม่เค้าเป็นแบบนี้ สามีเราเค้าก็เชื่อมาก เชื่อมาตลอด มีอะไรต้องถามกุมารแม่ของเค้าก่อนว่าจะดีมั้ย เราเบื่อมาก นี่ผู้นำครอบครัวเราหรือนี่…คือปกติเค้าก็เชื่อแม่เค้าอยู่แล้วอ่ะนะค่ะ แม่เค้าก็จะแนวบงการกลายๆ เพียงแต่ไม่ออกนอกหน้าชัดเจน จะทำผ่านกุมารเค้านี่แหละ นี่คือ 1 ประเด็นรำคาญใจของเรา 

ประเด็นที่ 2 คือนิสัยส่วนตัวของเค้า สิ่งที่เราไม่โอเคคือ เค้าเป็นคนที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัว ขี้งก อารมณ์ร้อน ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่กระตือรือร้น มีหลายครั้งที่ทะเลาะกันแล้วเค้าทำร้ายตัวเอง ทำลายข้าวของ มีสองสามครั้งที่ถึงกระทั่งบอกจะกระโดดคอนโดเรา ถ้าเราเลิกกับเค้า เราเคยคุยกับเค้าว่าเราไม่ชอบการที่เค้ามีภาวะอารมณ์แบบนี้ ซึ่งเค้าก็สัญญาว่าจะปรับ มันก็เหมือนจะดีขึ้น แต่หลายๆ ครั้งมันก็หลุดมาอยู่ดี แต่อาจไม่ถึงสมัยก่อน

เรื่องความเห็นแก่ตัว อะไรที่ลำบากตัวเค้า เค้าจะไม่ทำ งานบ้านยกเว้นซักผ้า เราทำอยู่คนเดียว ขนาดเราท้อง 8 เดือน เรายังต้องยาแนวห้องน้ำเองเลย ซึ่งเค้าก็ดูเฉยๆ อะไรที่เราอยากได้ อยากกิน อยากทำ ก็ไม่ได้ทำ ถ้าเค้าไม่อยาก โดยเค้าจะมีข้ออ้างตลอด

มีครั้งนึงเราได้งานใหม่ที่เติบโตขึ้น เนื้องานที่เราชอบ รายได้ดีขึ้นเกือบเท่าตัว สุดท้ายก็ไม่ได้ไป เพราะเค้าไม่อยากปรับตารางชีวิต จากที่เคยทำงานที่เดียวกัน ไปกลับพร้อมกันได้  

เรื่องขี้งก คือ เค้าไม่จ่ายอะไรเลย นอกจากค่าผ่อนบ้าน เงินเดือนเค้ามากกว่าเรา แต่พอหักค่าใช้จ่ายที่เค้าต้องให้แม่เค้าเป็นค่ากินอยู่และค่าผ่อนบ้านให้พ่อแม่เค้า (30% ของเงินเดือน)  ก็จะเหลือพอๆกับเรา

เค้าจะจ่ายค่าผ่อนบ้านที่เรากับเค้าซื้อกันอีกหลัง (เค้าซื้อเพราะเงินค่าสินสอดเค้าไม่พอเลยมาเจรจาบอกแม่เราว่าขอซื้อเป็นบ้านให้เป็นสินสอดเพิ่มไป แต่ชื่อมันก็ชื่อเค้าอ่ะนะ) หักที่เค้ากันไว้กินรายเดือนกับค่าใช้จ่ายต่างๆของเค้า  เค้าจะให้เราฝากธนาคาร ซึ่งเราก็ไม่ได้เคยใช้เงินในส่วนที่เหลือของเค้าที่ฝากไว้หรอก ทุกเดือนเราใช้เงินเราทั้ง 100% ทั้งกินส่วนตัว ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้านไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่า internet ค่าใช้จ่ายลูก เช่น แพมเพิส นม เป็นต้น บ่อยครั้งที่ต้องจ่ายกระทั่งค่าข้าวให้เค้าด้วยในวันที่เรากับเค้าอยู่ด้วยกัน เพราะ เค้าไม่ควัก เรารำคาญก็จ่ายๆไป

ก่อนแต่งงานเราโอเคถ้าจะหาร 2 ตลอด แต่หลังแต่งงานเราควรแสดงสปิริตสามีหน่อยมั้ย  เลี้ยงเมียบ้างมันคงไม่เป็นไรมั้ง ตอนไปขอเรากับแม่เรา พูดซะดิบดี จะดูแลเราอย่างดี แต่ความเป็นจริง เยี่ยงทาสเลยเรา ชีวิตเปลี่ยนมาก  (ปล. ของในบ้าน 80% ก็ขนมาจากคอนโดเรา  รถก็ใช้ของเรา  หลังแต่งเค้าเอารถเค้าไปให้บ้านเค้าใช้) นอกจากนี้กับบ้านเรา เค้าก็ไม่มีน้ำใจ ไปไหนมาไหนกับบ้านเราแม่เราจ่ายให้ตลอด (เค้าจะเอาเงินติดกระเป๋าไว้ไม่เกิน 200 เวลาไปไหนกับบ้านเรา รึไปกับเราก็เถอะ บางทีแม่เราไม่ได้กินด้วย ยังมาจ่ายให้) เวลามีเค้าอยู่ด้วยบรรยากาศจะอึดอัดๆ ก่อนแต่งบ้านเราโอเคกับเค้านะ เค้าก็ยังมีพฤติกรรมที่ไม่ขนาดทุกวันนี้  

เรื่องไม่ให้เกียรติ เค้ามักจะว่าเราต่อหน้าคนอื่นบ่อยๆ ขึ้นเสียงดุบ้าง ตำหนิบ้าง เราเคยคุยกับเค้า แต่ข้อนี้เค้าแก้ไม่ได้สักที

เรื่องการไม่กระตือรือร้น เนื่องจากเค้าเชื่อในสิ่งเล้นลับที่เค้านับถืออยู่มาก เราเลยเข้าใจว่าเค้าเชื่อว่าการที่เค้าขอพร การที่เค้าบูชา จะทำให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เค้าอยากได้ มันเลยออกมาแนว เรื่อยๆ รอเวลาฟ้าประทาน ไม่กระตือรือร้น แต่สำหรับเรา เราเชื่อว่า ไม่ทำเอา ก็อย่าหวังว่าจะได้มา) 

สำหรับเรา เราจบปริญญาโทจากต่างประเทศ บ้านเราถือว่ามีฐานะในละแวกนั้น  หลังจากเค้าไปบ้านเราครั้งแรก (เราพาไปหลังคบกันสัก 5 เดือน)  กลับมา เค้าก็ขอเราแต่งงาน ซึ่งเราก็งงว่าเร็วไปนะ เห็นบ้านละขอแต่งรึ (คิดในใจ) เราก็ยังไม่ตอบ แต่เค้าก็จะทำตัวเศร้า จนเราสงสารเลยบอกว่าไปคุยกับแม่เราดูละ  พ่อกับแม่เราตามใจ แต่ด้วยตอนนั้นดูเหมือนเค้ารักเรามาก ดูไม่ใช่เหมือนตอนนี้อ่ะ ดีกว่าเยอะ บ้านเราเลยบอกว่าเวลาบางทีก็ไม่สำคัญ คบนานก็เลิกกันได้ ถ้าเค้าเป็นคนดี รักเราจริง ก็พอ ฐานะไม่สำคัญ สร้างกันได้ ถ้ามีความมานะ  ซึ่งเราเห็นด้วย สุดท้าย เราเลยตอบตกลง

เราแต่งงาน 1 ปีกว่าๆ หลังคบกัน แต่งแล้วเราท้องเลย (อันนี้เรายังไม่อยากรีบ ตอนแรกวางว่าสักสองปี แต่แม่แฟนอยากมีหลาน แฟนเราเลยจัดให้) ตั้งแต่หลังแต่ง จนมีลูก พฤติกรรมของเค้ามันก็แย่ลงๆ อย่างที่เราเล่ามาข้างต้น

ตอนนี้เราเสียใจมากที่เลือกปล่อยให้ชีวิตตัวเองดิ่งลงมาขนาดนี้ บางทีก็คิด หรือว่าเราเครียดจนจะเป็นโรคซึมเศร้ามั้ยนะ คิดย้อนกลับไปในวันที่หลายๆคนเตือนเรา คนรอบข้างเราที่รู้จักทั้งเราและเค้า พอรู้ว่าจะแต่ง ส่วนใหญ่บอกให้ดูดีๆ ชีวิตเราน่าจะไปได้อีกไกล แต่ก็นะ มันย้อนอะไรกลับไปไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงทำวันนี้ให้มันดี เพื่อที่จะไม่เสียใจอีกในวันหน้า มันเลยเป็นจุดเริ่มต้นให้เราถามตัวเอง หรือว่ามันถึงเวลาที่เราจะพาตัวเรา กับลูก ออกมาดี เราไม่อยากให้ลูกซึมซับ สิ่งที่พ่อเค้าเป็น เราอยากให้เค้ามี role model ที่ดี อยากฟังมุมนมองจากคนนอกน่ะค่ะ บางทีเราอาจะมองแค่ในมุมของเรา กลัวจะทำอะไรไปด้วยอคติ เลยมาเขียนในนี้ดู ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนล่วงหน้านะค่ะ (หากเขียนตรงไหนงงๆ หรือ มีอะไรที่ผิดพลาด ต้องขออภัยด้วยค่ะ)
ปล. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิด ก่อนเจอเรา 1 ปี สามีเราเคยจะแต่งงานแล้ว 1 ครั้ง แต่งานถูกยกเลิกไป เพราะทะเลาะกันกับว่าที่เจ้าสาว ข้อนี้ก็มีคนเคยเตือนเราว่าทำไมแฟนเก่าเค้าถึงตัดสินใ0ยกเลิกงานแต่ง มันต้องมีอะไรมั้ย แต่เราก็ไม่ได้ไปถามอะไรสามีเราเยอะนะค่ะ ไม่อยากยุ่ง เค้าแค่บอกเราว่า ทะเลาะกัน สุดท้ายตัดสินใจยกเลิกงาน แล้วผู้หญิงก็ไม่คืนสินสอด ไรงี้ ข้อดีแฟนเราก็มีนะ เช่น ไม่เจ้าชู้ ไว้ใจได้ว่าไม่นอกลู่นอกทาง แต่ตอนนี้มันมีแต่ข้อเสียที่ทับถมเพิ่มขึ้นๆ จนเราลืมข้อดีที่มีอยู่น้อยนิดของเค้าไปแล้ว

 

ที่มา  https://pantip.com/topic/36936723

 

ข้อเสีย
– ผมอ่านจากข้อความแล้ว ประเมินความรู้สึกของคุณได้ว่า คุณไม่มีความรักเป็นพื้นฐานให้กับสามีของคุณเลย 
– ในเมื่อคุณได้รับรู้ถึงพื้นเพ กอปรกับความเชื่องมงายของครอบครัวเขาแล้ว ทำไมคุณถึงเลือกที่จะร่วมชีวิตกับเขา คุณมองเห็นอะไรในตัวเขา  ก่อนหน้านี้ และตอนนี้มันยังมีอยู่ไหม
– คุณใช้เวลาศึกษาดูใจกันก่อนแต่งน้อยเกินไป ไม่เพียงพอที่จะได้เรียนรู้ลักษณะนิสัยที่แท้จริง ที่จะยอมรับได้ระหว่างกัน รวมถึงแนวโน้มของปัญหา   ที่จะเกิดมีขึ้นในภายภาคหน้าด้วย
– การทำร้ายตัวเอง ชี้ให้เห็นได้ว่า เขามีปมปัญหาในชีวิตที่ฝังใจอยู่ 
– การขู่จะฆ่าตัวตาย ชี้ให้เห็นว่าเขามีความคิดที่ยึดติดกับคุณมาก จึงเลือกใช้วิธีที่เขาเห็นว่า จะได้รับความสนใจจากคุณอย่างแน่นอน
– ความเห็นแก่ตัว คุณไม่มีทางที่เปลี่ยนแปลงเขาได้ เพราะนี่คือตัวตนที่แท้จริงของเขา
– ความไม่เอาใจใส่ ซึ่งเกิดจากความชินชาของเขาที่มีต่อคุณ และมันจะยิ่งลดน้อยลงไปอีก เมื่อผ่านกาลเวลาไปเรื่อยๆ
– การฉุดรั้งความก้าวหน้าในอาชีพของคุณ เห็นได้ว่าเขาไม่ได้รักคุณมากพอ ที่จะได้เห็นคุณก้าวหน้าในอนาคต จึงเลือกฉุดรั้งคุณไว้ใกล้ตัว
– แล้วยังเรื่องบ้าน ที่เป็นชื่อของฝ่ายชายเพียงคนเดียว ทั้งที่มีการเจรจาว่า ฝ่ายชายเสนอขอซื้อเป็นบ้านให้เป็นสินสอดเพิ่ม
– เรื่องพฤติกรรมการใช้จ่าย เขาแสดงให้คุณเห็นตั้งแต่ก่อนแต่งแล้ว ซึ่งเป็นการยากที่เขาจะยอมเปลี่ยนแปลง เพราะเขาเห็นได้ว่า คุณยอมรับได้ใน  ส่วนนี้ตั้งแต่แรก 
  แต่เรื่องที่เขาขาดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แม้กระทั่งกับพ่อและแม่ของคุณ นั่นแสดงให้เห็นได้ว่า หากพ่อและแม่ของคุณ เกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมาก็ตาม   ที่คุณจะต้องไปให้การดูแล ช่วยเหลือ ในฐานะลูกแล้วละก็ จะต้องมีเรื่องขัดแย้งกับเขาอย่างแน่นอน
– เรื่องการไม่ให้เกียรติคุณต่อหน้าบุคคลอื่น เป็นทัศนคติในแง่ลบของเขา ที่มีต่อคุณตั้งแต่แรกเริ่ม 
– เรื่องการไม่กระตือรือร้น คุณคงไม่มีทาง ที่จะเป็นแรงผลักดันให้กับเขาได้ เพราะมันเกี่ยวโยงถึงความเชื่อของเขา ที่มีอยู่ก่อนหน้าที่จะมาพบกับคุณ
– ข้อมูลใน ปล. คงมีชนวนเหตุของปัญหา ที่มีมาก่อนหน้านั้นแล้ว จนในที่สุดคงมีเหตุให้ฝ่ายหญิง ได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่า 
  เธอคงไม่สามารถยอมรับ ในตัวตนของฝ่ายชายได้อีกต่อไป
– อคติ และความคับข้องใจ รวมทั้งความน้อยเนื้อต่ำใจของคุณเอง อาจทำให้บดบังข้อดีที่มีของเขา   

ข้อดี
– เขาให้เงินส่วนของเขากับคุณ ให้คุณฝากธนาคาร แม้จะฝากเป็นชื่อบัญชีของใครก็ตาม ซึ่งถือว่าเขายังมีการวางแผนสำรองเงิน   ไว้ใช้จ่ายในอนาคต
– ความซื่อสัตย์ต่อคนรัก หรือคู่ครอง ซึ่งถือว่าหาได้ยากในปัจจุบัน กับคนในสมัยนี้

สุดท้ายนี้ มันเป็นปัญหาครอบครัวที่ไม่มีทางจะแก้ไขได้ ในตอนนี้คุณควรให้เวลากับตัวเอง และกลับไปอยู่ที่บ้านคุณสักระยะหนึ่ง เพื่อไตร่ตรองเส้นทางของคุณ กับทางเลือกที่มีอยู่ในใจของคุณ รวมถึงผลดี ผลเสีย ที่จะส่งผลกระทบต่อลูกของคุณ ในด้านความรู้สึกด้วย ก่อนที่คุณจะทำการตัดสินใจอะไรลงไป 

 

ถ้าข้อเสียเค้าจะเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่ทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นล่ะค่ะ เคยพลาดไปแล้วกับการแต่งงานกับเค้า มีผัวผิดคิดจนตัวตายนะค่ะ ทำไมไม่เลือกที่จะเดินออกมาค่ะ?? ถ้าเค้าขู่จะฆ่าตัวตายก็ปล่อยให้เค้าตายๆไปเถอะค่ะ เค้ายังไม่รักตัวเองก็ปล่อยเค้าไปค่ะ สิ่งที่คุณทำอยู่มันคือความเคยชิน เคยชินที่คุณจ่าย คุณทำให้ คุณรับผิดชอบ มันจะยิ่งเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ตอนนี้แค่รอเวลาให้คุณเอือมระอา เบื่อ แล้วหมดรักเค้าไปเองค่ะ
คุณไม่รักตัวเองหรือค่ะ ข้อดีแค่ไม่เจ้าชู้ ไม่ได้เรียกว่าข้อดีนะค่ะ เค้าแค่หาคนอื่นได้ไม่ดีเท่าคุณ 

รีบเดินออกมาจากความเป็นทาสสามีซะนะค่ะ ก่อนที่ตัวคุณเองจะเป็นบ้าค่ะไม่ได้ยุให้เลิกกันนะค่ะแต่ถ้ายิ่งอยู่ยิ่งแย่ควรรักตัวเองมากกว่ารักคนอื่นนะค่ะ

 

ผู้หญิงชอบใช้ข้อดีตรงที่ ไม่เจ้าชู้ ของผู้ชายมาเป็นข้ออ้างดีเฟนแทนผู้ชายตลอด มองดีๆ มองลึกๆ ไม่ใช่มันไม่เจ้าชู้หรอก มันขี้งก ขี้เหนียว ขี้เกียจ เงินก็ไม่มี บ้านจนอีก จะเอาอะไรไปเจ้าชู้ 

เชื่อว่าคุณคงได้คำตอบแล้วนะคะ ว่าควรอยู่หรือไป…

 

เค้าจ่ายค่าเช่าเท่าไรครับ
เห็นบอกว่าที่เหลือเก็บเข้าแบงค์ นี่คือบัญชีเขาหรือเปล่าครับ เค้าบอกไหมว่าเงินสำหรับอนาคตของคุณกับเค้า

เท่าที่อ่านดูหาเงินได้มากอยู่นะครับ 
แต่ก็ส่งกลับบ้านเยอะมากเลยนะ 30% ของเงินเดือน
แต่คุณก็ช่วยออกได้ ไม่ใช่หรอครับ สามี ภรรยา

เดาว่าเพราะแบบนี้เงินเลยไม่พอ เลยต้องกินขนมคุณ หรือไม่ออกเงินเวลาไปไหนมาไหน
เพราะคิดว่าคุณเป็นภรรยาอาจจะไม่คิดมากหรือเปล่า ต้องบอกว่าบางอย่างก็ยังดูไม่เป็นผู้นำ เช่น กระโดดระเบียง เรื่องยาแนวตอนคุณท้อง

แต่อยากบอกว่าชีวิตคู่กับชีวิตฝันไม่เหมือนกันนะ คุณดูวาดฝันไว้ เพียงแต่มันดันออกมาอีกอย่าง
ผมไม่แน่ใจที่เค้าไม่ช่วยที่บ้านคุณออกตอนไปไหน มาไหน เพราะเงินเค้าไม่พอหรือเปล่า 

ผมอ่านดูทำไมผมกลับรู้สึกว่าคุณก็ไม่ได้รักผู้ชายคนนี้เลยไม่รู้นะครับ คุณน่าจะชอบผู้ชายที่เป็นผู้นำมากกว่าหรือเปล่า
ถ้าคุณรักเค้าจริง เค้ารักคุณจริง เค้าก็ต้องปรับตัวได้ แต่คนเราไม่มีใครเพอร์เฟคนะ มีดี มีเสีย 

ผมอยากแนะนำว่าลองคุยกับแม่แฟนตรงๆ หรือถ้าไม่กล้าให้พ่อแม่คุณนั่นแหละคุยตรงๆ ถ้าท่านเป็นคนดีก็คงรับฟังและยอม เพราะเงิน 30% มันมากอยู่จริงๆแหละ 

สุดท้ายผมอยากฝากคุณไว้ว่า ถ้าคุณจะระบายพันทิพเป็นพื้นที่ที่ดีครับ แต่คนในนี้ส่วนใหญ่คือคนที่มีปมด้านความรัก สิ่งที่เค้าจะแนะนำคุณคือ “เลิก” คุณลองอ่านดูสิมีใครแนะนำคุณแก้ปัญหาบ้าง ไม่มีครับ ผมคนพวกนี้ไม่คิดแก้ไข นั่นจึงเป็นเหตุผลสังคมไทย 
ทำไมเด็กมีปัญหา หรือทำไมเปลี่ยนสามี เปลี่ยนภรรยาไปเรื่อย 

ขออภัยอาจขัดใจ ผมแค่พูดตรงๆ

 

อ่านไปได้ครึ่งนึงก็ควรหย่าได้แล้ว เหมือนเค้าไม่รักคุณเลย

 

ทนอ่านได้ไม่ถึงครึ่ง

ทนมาได้ตั้งสองปี  เก่งจริงๆเลยนะเนี่ย  ต่อมอดทนของคุณอาจจะโตผิดปกติไปแล้ว

เลิกได้ก็เลิกเถอะ  อันที่แย่ที่สุดคือ การที่คุณได้งานใหม่ดีกว่าเก่า  แต่ไม่ยอมให้ไป เพราะไม่อยากปรับตารางชีวิต  อันนี้พีคสุด  ( แต่คุณก็แย่นะคะ อนาคตตัวเอง แต่ดันไปเหลาะแหละตามผัวซะงั้น)  

ผญ สมัยนี้ต่อให้แต่งงานมีสามีไปแล้ว  อย่าคิดวางใจอะไรง่ายๆค่ะ  งานต้องทำ เงินต้องมี เผื่อทางเดินทางออกฉุกเฉินให้ตัวเองด้วย

ตอนนี้ได้เวลาเปิดประตูฉุกเฉินแล้วค่ะ  คำว่าไปตายเอาดาบหน้า ไม่ใช่คำเกินจริงนะ  เป็นคำที่สมจริงที่สุดแล้ว

 

[seed_social]

Top