สวัสดีค่ะ คุณบี
ดิฉันชื่อxxนะคะ อายุ 30 ปี ตอนนี้กำลังคบหากับชายไทยอายุ 31 ปี คุยกันเรื่องแต่งงานแล้วค่ะ โดยฝ่ายชายไปคุยกับแม่เขาแล้ว แม่เขาโอเคค่ะ แต่ติดตางฝ่ายผู้ใหญ่ทางฝั่งดิฉันค่ะ
คือมี แผนการว่าจะซื้อบ้านด้วยกัน โดยจะกู้ร่วม แต่พอดิฉันบอกเรื่องนี้กับแม่ แม่บอกว่าให้ฝ่ายชายกู้คนเดียว และให้บ้านเป็นชื่อฝ่ายชาย เนื่องจากกลัวว่า หากอยู่กันไม่ได้ จะได้ไม่มีพันธะทางธุรกรรม แต่ฝ่ายชายกลับมองว่า แบบนั้นมันดูไม่เป็นครอบครัว และฝ่ายชายมีน้ำเสียงที่เครียดขึ้น เมื่อดิฉันบอกไปแบบนั้นหลังจากนั้น เขาได้ส่งไลน์มาบอกกับดิฉันว่า
“ผู้ใหญ่เค้ามองแบบนั้นไม่ผิดนะ เพราะมีสิทธิ์ที่จะเป็นห่วง เค้าอาจจะมองเห็นบางอย่างก็ได้ ลองรับฟังเค้า เพราะเค้าผ่านอะไรมาก่อน ถ้ายังไม่ผ่านก็ไม่ผ่านนะxx เชื่อพ่อแม่ดีที่สุด”
ดิฉันไม่รู้จะต้องวางตัวยังไงกับเรื่องนี้ คือ ดิฉันยังไม่ได้คุยกับฝ่ายชาย แต่แค่คิดว่าทำไมฝ่ายชายไม่สู้ต่อ ใจดิฉันรู้สึก fail เพราะดิฉันหวังจะได้ยินว่า จะพิสูจน์ให้ผู้ใหญ่เห็นไปด้วยกัน
คือดิฉันไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดีค่ะคุณบี
ขอบคุณค่ะ
———————————————————————————————–
สวัสดีค่ะ คุณxx
ขอบคุณที่ไว้ใจเขียนมาปรึกษานะคะ คุณxx
ฟังดูจากภาษาที่แฟนของคุณxxใช้ ดูเป็นคนมีความคิดคนหนึ่งเลยนะคะ ดูเป็นคนมีวุฒิภาวะค่ะ
ถ้าถามบี บีว่าบีเข้าใจแฟนคุณxxนะคะ คุณxxลองคิดกลับกันดู หากฝ่ายคุณพ่อคุณแม่แฟนคุณxx พูดมาแบบนี้เช่นกันว่า ให้คุณxxซื้อไปคนเดียว ใส่ชื่อคุณxxไป เวลาเลิกกัน จะได้ไม่ยุ่งยาก คุณxxจะรู้สึกเช่นไรคะ
เป็นบี บีจะรู้สึกว่า คงยังไม่ไว้ใจว่าคู่นี้จะไปกันรอดไหม และคงคิดว่ามีแววไม่รอดสูง ถึงได้แนะนำอะไรแบบนี้ แล้วคุณxxจะรู้สึกอย่างไรกับคุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายชายล่ะทีนี้
แต่ว่า คุณที่เป็นพ่อแม่ ก็คงอย่างนี้ ห่วงลูกที่สุด อันนี้ เราก็เข้าใจนะคะ แต่ว่า เวลาเราอยากเข้าใจใคร ก็ต้องเอาตัวเองไปเป็นเขา แล้วคิดอย่างยุติธรรมน่ะค่ะ
สิ่งที่คุณxxพิมพ์ถามบีมา นี่แหล่ะค่ะ คือสิ่งที่คุณxxควรไปจับเข่าคุยกันดีๆ หวานๆ กับแฟนค่ะ และอย่าลืมว่า จะพูดอะไร ถนอมน้ำใจแฟนด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้น ก็จะได้เลิกกันจริงๆล่ะค่ะ
“ดิฉันไม่รู้จะต้องวางตัวยังไงกับเรื่องนี้ คือ ดิฉันยังไม่ได้คุยกับฝ่ายชาย แต่แค่คิดว่าทำไมฝ่ายชายไม่สู้ต่อ ใจดิฉันรู้สึก fail เพราะดิฉันหวังจะได้ยินว่า จะพิสูจน์ให้ผู้ใหญ่เห็นไปด้วยกัน
คือดิฉันไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดีค่ะคุณบี”
อย่าลืมว่า คนเราพอเป็นคู่กันแล้ว จะใช้ชีวิตด้วยกัน ยังมีปัญหาอีกมากมายให้ต้องปรับตัว ต้องคุยกัน ปัญหานี้ก็เป็นปัญหาหนึ่ง หากแก้ปัญหาแค่นี้ไม่ได้ ระวังปัญหาภายหน้า จะกลายเป็นว่า พูดกันไม่ได้เลย พูดอะไรขึ้นมา มีแต่ท้าเลิก หรือมีแต่คนขอยอมแพ้เสมอ ระยะยาว ไปกันไม่รอดหรอกค่ะ คุณxx
เวลาเลือกคู่ ถึงต้องใช้สถานการณ์ทุกอย่างในชีวิตเป็นการทดสอบแฟน และตัวเองด้วยค่ะ การปรับตัว ต้องปรับทั้งสองฝ่ายนะคะ ปรับกันอยู่ฝ่ายเดียว สุดท้าย ไอ้ฝ่ายที่ปรับอยู่คนเดียว ก็เบื่อสุดจะทน เบื่อที่จะต้องปรับอยู่คนเดียว ในที่สุด ก็มักจะเลิกไป หรือทนทุกข์ หวานอมขมกลืนไปตลอดชีวิต
ลองพยายามพูดคุยกับเขา และคุณพ่อคุณแม่ดูนะคะ ผู้ใหญ่ไม่ได้ถูกทุกเรื่องหรอกค่ะ แต่แน่นอน เขารักคุณxxมากที่สุด แต่สำหรับบี สิ่งที่ผู้ใหญ่พูด หรือทัก ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด ที่ควรทำเสมอไป บีจะฟังผู้ใหญ่พูดค่ะ แต่บีจะคิดเอง แต่เราก็ต้องแน่ใจด้วยว่า เราจะต้องรับผิดชอบจากการกระทำที่เราตัดสินใจทำลงไปด้วยตัวเอง ห้ามโทษใคร
ลองพิจารณาดูนะคะ
โชคดีค่ะ คุณxx
บี
#หาคู่ #หาแฟน #bangkokmatching.com #บริษัทจัดหาคู่ #pantip #พันทิป #datingagency #บริษัทหาคู่ #บริการหาคู่
#บริษัทรักอุตลุด #หาคู่คนไทย #หาคู่ต่างชาติ
